1-โฆษณาทิชชู่เปียกเช็ดเครื่องสำอางยี่ห้อ Purcotton ในประเทศจีน ถูกพลังโซเชียลรุมกระหน่ำแบน เนื่องจากมีเนื้อหาเหยียดเพศ เหยียดรูปลักษณ์ และโทษเหยื่อ(Victim Blaming) อย่างเกินอภัย จนถึงขั้นเรียกร้องให้คว่ำบาตรบริษัทผู้ผลิต จนบริษัทต้องออกมาขอโทษผ่านทางแอคเคาท์ Weibo และยืนยันว่าจะไม่ให้มีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นอีก พร้อมทั้งลบโฆษณาตัวดังกล่าวทิ้ง
2-เรื่องราวในโฆษณา คือหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังเดินทางกลับบ้านคนเดียวในยามวิกาล โดยมีชายหนุ่มคนหนึ่งแอบย่องตามเธอมา และในขณะที่เธอหยิบผลิตภัณฑ์เช็ดเครื่องสำอาง Purcotton ขึ้นมาทำความสะอาดใบหน้าจนหมดจด เผยหน้าสด ไร้เครื่องสำอาง ทำให้ผู้ชายคนที่แอบย่องตามมาด้วยความเสน่หาที่กำลังเข้ามาจับตัวเธอจากด้านหลังนั้นเห็นใบหน้าที่ไร้เครื่องสำอาง และถึงกับแสดงท่าทีรังเกียจ โดยบนจอมีตัวหนังสือข้อความเป็นภาษาจีนที่แปลว่า “อ้วก” ขึ้นบรรยายกำกับ และชายสตอลค์เกอร์คนนั้นก็เผ่นหนีไป
3-ชาวโซเชียลในจีนได้ออกมาประณามโฆษณาดังกล่าวผ่านทางโซเชียลมีเดียของจีน Weibo และกล่าวว่ามันคือการทำร้ายผู้คนที่เป็นเหยื่อจากการล่วงละเมิดทางเพศอย่างโหดร้าย เพราะเนื้อหาในโฆษณานอกจากจะเต็มไปด้วยอคติ การเหยียดเพศ ทำเหมือนผู้หญิงเป็นสิ่งของ และยังเป็นการโทษเหยื่อ
4-ในทีแรกบริษัทผู้ผลิต Purcotton ซึ่งก็คือ Winner Medical Group ที่มีร้านค้ามากกว่า 240 แห่ง และมีลูกค้าประมาณ 20 ล้านคนในประเทศจีน ก็ออกมาแก้ต่างว่า โฆษณาของตนเป็นการนำเสนอประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์อย่างสร้างสรรค์แล้วนะ แต่พอโซเชียลเริ่มชวนกันคว่ำบาตร บริษัทจึงออกมาขอโทษและลบโฆษณา
5-ความขมขื่นใจจากมายาคติเหยียดเพศ และโทษเหยื่อ ที่เกิดจากค่านิยมชายเป็นใหญ่ในจีน ถูกสะสมกดทับกันจนพร้อมระเบิดออกในยุคนี้ เช่นเดียวกับอีกหลายประเทศฝั่งเอเชียที่คนรุ่นใหม่พยายามพัฒนามาตรฐานความมีมนุษยธรรมในสังคม เพราะ Purcotton ไม่ใช่เจ้าแรกที่ถูกรุมแบนด้วยข้อหาเหยียดเพศ เหยียดรูปลักษณ์ เนื่องจากปีก่อนก็มีกรณีที่ซูเปอร์มาร์เก็ต RT-Mart ต้องออกมาขอโทษสังคม เพราะร้านค้าในเครือบางสาขา มีการแสดงแผนภูมิไซส์เสื้อของผู้หญิง ซึ่งมีการระบุว่าผู้หญิงที่สวมเสื้อขนาด XXL นั้น “สยอง” และ “แย่” มาก
6-เมื่อปีก่อนอีกเช่นกัน ก็มีมหาวิทยาลัยในจีน 2 แห่ง ก็เพิ่งโดนโจมตี เพราะวัฒนธรรม “โทษเหยื่อ” ที่ออกมาจากความคิดของผู้หลักผู้ใหญ่ในมหาวิทยาลัยเองด้วยซ้ำ ได้แก่ GuangXi University ที่ตักเตือนนักศึกษาหญิงลงในคู่มือด้านความปลอดภัย ว่านักศึกษาหญิงควรแต่งกายเรียบร้อย ไม่เว้าหน้าเว้าหลังให้มากนัก เพื่อไม่ให้เกิดการล่อตาล่อใจนักศึกษาชาย และที่ China Academy of Art ก็เตือนนักศึกษาหญิงเช่นกันว่า การมีรูปร่างหน้าตาดี หรือการพยายามทำให้ตัวเองดูดีมากเกินไป อาจเป็นการดึงดูดความสนใจทางเพศที่ไม่พึงปรารถนาจากผู้ชายได้
7-เป็นปรากฏการณ์ที่ทำให้เราเห็นได้ชัดเจนว่ายุคสมัยแห่งการ “เหยียด” และมายาคติความเป็น “คนไม่เท่ากัน” กำลังเสื่อมถอย และเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคสมัยของคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการสังคมที่มีความเท่าเทียม เคารพในสิทธิ เสรีภาพซึ่งกันและกัน มองคนเป็นคน ให้เกียรติความเป็นมนุษย์ของกันและกัน และไม่เอ็นจอยกับการเหยียบผู้อื่นที่แตกต่างให้ดูต่ำกว่าเพื่อที่ตนจะได้รู้สึกสูงขึ้น เพื่อตอบสนองเบื้องลึกจิตใจที่กระหาย “อำนาจนิยม” อีกต่อไป
WE Think ขอเป็นกำลังใจให้ชาวจีน และชาวไทยผู้ฝักใฝ่โลกใหม่ที่มนุษยธรรมรุ่งเรืองด้วยเช่นกัน
ที่มาข้อมูล
1-https://www.bbc.com/news/world-asia-china-55628587
2-https://edition.cnn.com/2021/01/11/asia/purcotton-china-ad-metoo-intl-hnk/index.html