1.
“Baworndet2476” เป็นแอคเคาท์ทวิตเตอร์ซึ่งเป็นที่รู้จักจากข้อความทวิตที่อ้างว่า เพื่อนไปม็อบมา และได้ยินธนาธรคุยกับสส.วิโรจน์ในห้องน้ำข้างๆ เพื่อแจ้งข่าวว่าร.10 บอกกับประชาชนว่า “กล้ามาก เก่งมาก ขอบใจ” ทำให้ฝ่ายตรงข้าม(เสื้อเหลือง)ฮึกเหิม และให้สส.วิโรจน์บอกทีม IO ในเน็ตและในม็อบให้ล้อเลียนสถาบันเยอะๆ กระแสม็อบเด็กจะได้ไม่ตก

2.
ซึ่งสุดท้ายแล้วก็มีคนจับผิดได้ว่าวันนั้นธนาธรกำลังลงพื้นที่อยู่ที่จังหวัดอ่างทอง ทั้งสส.วิโรจน์ก็ยังออกมาทวิตแย้งๆ บ่นๆ ว่า “จะโทรคุยกะวิโรจน์ ต้องโทรคุยในห้องขี้สาธารณะ ทำไมมันอนาถขนาดนี้วะเนี่ย?”(อืม นั่นสิ)
แต่แม้ละครฉากนี้จะจบไปแบบที่ใครๆ ก็รู้ว่าเชื่อไม่ได้ แต่สิ่งที่ปังกว่าละครปลอมๆ คือ “Baworndet2476” ได้ซีนทั้งในโลกทวิตฯ และเฟซบุค

3.
ทำให้แอค “Baworndet2476” ที่เพิ่งเปิดใช้ทวิตเตอร์เมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ.2020 และมีผู้ติดตามในตอนแรกอยู่ประมาณ 40 คน จนปัจจุบันนี้เพิ่มยอดติดตามขึ้นเป็นกว่า 1,700 แล้ว เพราะหลังจากแจ้งเกิดด้วยการกุฉากละครของธนาธรขึ้นมา แอคนี้ก็ทำการ “ขยี้” สามทหารเสือของอดีตพรรคอนาคตใหม่ไม่เว้นแต่ละวัน ด้วยความปักใจเชื่อว่าธนาธรคือผู้บงการม็อบสลับกับขุดประเด็นการเมืองของบ้าน “ชินวัตร” ขึ้นมาแซะงามๆ ไปพลาง ทั้งที่ Bio หน้าทวิตเตอร์ตัวเองโปรยหัวขายไว้ชัดเจนว่า “ไม่สลิ่ม เป็นกลางทางการเมือง” และเป็น “อากาเซ่แท้ๆ” แค่นั้นเอ๊งงงงง

4.
ผ่านไปหนึ่งเดือน นางก็ได้ซีนปังอีกรอบ เพราะรีวิว “กุ้งเผา” ในม็อบแบบอันซีนตั้งแต่ยังอยู่ในถังน้ำแข็ง ในขณะที่ชาวสามนิ้วบางคนที่พลาดชุมนุมครั้งนั้นยังได้แต่นั่งหิวกุ้งอยู่ในเฟซในทวิต แต่คนเป็นกลางและโจมตีม็อบทุกวันอย่าง “Baworndet2476” ยังได้กินกุ้งพี่ทราย แต่ประเด็นที่ทำให้นางได้ซีนคือการแฉกุ้งแฉหมึกนี่แหละ ด่าตั้งแต่คนปิ้งว่ามัวแต่ยืนเล่นจนปิ้งกุ้งไม่ทัน กุ้งที่ได้มาก็เล็กเท่านิ้วโป้ง แถมมยังผสมแป้ง หมึกที่ได้มาก็ไม่สดเพราะเป็นสีเหลือง ซึ่งก็มีหลายคนออกมาแย้งกันยกใหญ่ว่ากุ้งที่ไหนจะผสมแป้ง และที่หมึกเป็นสีเหลืองเพราะเค้าต้องหมักซอสก่อนย่างจ้ะ

5.
ล่าสุด “Baworndet2476” รีวิวสายแดรกในม็อบก็ออกมาพร้อมรีวิว “ชาไข่มุก” ใน Mob Fest วันที่ 14 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมาอีกรอบ ด้วยการด่าทุกอย่างเท่าที่มีให้ด่า ว่าแจกแบบขอไปที ชานมค้างคืน ไข่มุกไม่ดีมีกลิ่นฉุน กินแล้วติดคอ แต่ก็มีหลายคนเข้ามาสวนว่าขนาดกินแล้วติดคอยังดูดแทบไม่เหลือ

6.
บางคนอาจจะคิดว่า “Baworndet2476” คือแอคปั่นฝั่งคณะราษฎรเพื่อทำให้ “สลิ่ม” ดูโง่ บางคนก็ว่าคือฝ่ายตรงข้ามผู้ชุมนุมจริงๆ นี่แหละ เพราะเจตนาในการเปิดแอคเคาท์เข้ามาเล่นทวิตเตอร์ก็มีแต่การ “ดิสเครดิต” ฝั่งประชาธิปไตยตลอดมาหรือความจริงแล้ว อาจจะเป็นแค่หนึ่งในแอคIO ที่เรียกซีนปั่นยอดฟอลเองสำเร็จ

7.
เพราะจริงๆ แล้วอะไรแบบนี้นี่แหละมันคืองานของ “IO” ที่พากันมาบุกทวิตเตอร์ในช่วงเดือนสองเดือนที่ผ่านมา ด้วยการกว้านซื้อแอคเคาท์ที่ไม่ได้แอคทีฟมานานแต่มียอดผู้ติดตามเยอะพอประมาณ ไปจนถึงเปิดแอคเคาท์ใหม่ ตั้งชื่อแอคให้ดูเนียนๆ กับโลกทวิตฯไทย เช่นการเป็น “ติ่ง” วงใดสักวง ตั้ง Bio ที่พยายามให้ดูไม่เป็น “ฝ่ายต่อต้าน” แต่เป็นบุคคลที่สาม คนกลาง หรือแม้กระทั่งเป็นฝ่ายเดียวกันกับฝั่งที่จะโจมตีนั่นแหละ และก็โพสต์บทความโจมตีฝั่ง “ประชาธิปไตย” ด้วยข้อความซ้ำๆ กันทุกแอค เข้าไปปั่นไปป่วนเพื่อ “ดิสเครดิต” ฝ่ายประชาธิปไตยเท่าที่ทำได้
8.
ซึ่งสิ่งที่ “Baworndet2476” ทำก็ไม่ต่าง ตั้งแต่โปรย Bio บอกว่าตน “เป็นกลางทางการเมือง” แต่แค่ชื่อก็ไม่ใช่แล้ว เพราะ “บวรเดช” คือ “กบฏบวรเดช” หรือที่เรียกตัวเองว่าเป็น “คณะกู้บ้านกู้เมือง” นำโดย “พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบวรเดช” และเหล่าขุนนางที่ไม่พอใจกับการเปลี่ยนจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์พยายามก่อรัฐประหารรัฐบาลของ “คณะราษฎร 2476” ด้วยกำลังอาวุธ ซึ่งท้ายที่สุดก็พ่ายแพ้แก่ฝ่ายรัฐบาล

9.
“กบฏบวรเดช” และ “พระองค์เจ้าบวรเดช” เรียกได้ว่าเป็นภาพเดจาวูของรัฐบาลทหารเผด็จการไทยที่ในยุคนี้เลยก็ว่าได้ เพราะเหตุกบฏครั้งนั้นเกิดขึ้นด้วยความไม่พอใจในอำนาจและตำหน่งที่ตนมีของ “พระองค์เจ้าบวรเดช” ผู้เป็นทั้งทหารและมีเชื้อสายเจ้า บวกกับความกลัวประเทศไทยจะเป็น “คอมมิวนิสต์” จนขึ้นสมองของเหล่าทหารผู้ใหญ่และทหารการเมือง เพียงแค่ “หลวงประดิษฐ์มนูธรรม” เสนอนโยบายที่จะใช้ประชาชนและชาวนามีสวัสดิการมีบำนาญเพิ่มมากขึ้น ทั้งฝ่ายทหารและเจ้าก็ทึกทักว่าเป็นแนวคิดแบบคอมมิวนิสต์ แค่เพียงเพราะกลัวประชาชนจะมีกำลังมีอำนาจมากขึ้นจนอำนาจของเหล่าชนชั้นจนจะเสื่อมลง
ไม่ต่างจากปัจจุบันที่เหล่าทหารเผด็จการกระหายอำนาจการเมืองและชนชั้นนำยังใช้มุก “คอมมิวนิสต์ ล้มเจ้า” มาใช้เพื่อให้เกิดข้ออ้างชอบธรรมในการหันกระบอกปืนไปยังฝ่ายตรงข้าม ซึ่งก็คือฝ่ายประชาชนนั่นเอง
10.
“บวรเดช” ยังคงเป็นภาพของทหารเผด็จการไทยในปัจจุบันไม่มีเปลี่ยน คือกระหายอำนาจ เผด็จการ และอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ “ราษฎร” และ “คณะราษฎร” แม้ว่าพ.ศ.จะเปลี่ยนไปมากแล้วก็ตาม นั่นรวมถึงความเป็น “ทหาร” แบบ “ไทย” ที่หัวรุนแรง และคิดอะไรได้ชั้นเดียวด้วยที่ยังคงเดิม นำมาซึ่งกลยุทธ์ในการโจมตีประชาชนด้วย “ข้อมูล”(IO) ที่มีเพียง “วิธีการ” แต่ “คอนเทนท์” ก็ยังบ้ง และดูเป็นเรื่องตลกซะมาก จนทำให้เป็นได้แค่กระแสให้คนพากันขำ ทั้งที่เจตนาคือการ “ดิสเครดิต” ก็ตาม

11.
“IO” หรือ “Information Operation” คือกลยุทธ์ทางทหารที่ใช้เป็นยุทธวิธีโจมตีศัตรูในสงคราม ด้วยการใช้ “ข้อมูล” ผ่านสื่อต่างๆ เพื่อทำลายฝ่ายตรงข้ามในทางใดทางหนึ่ง เริ่มตั้งแต่สร้างผลกระทบต่อการคิดและตัดสินใจของฝ่ายตรงข้ามเช่นสร้างข้อมูลเท็จบิดเบือนการรับรู้เพื่อให้โจมตีง่าย ปล่อยข้อมูลที่เสี้ยมให้คนในฝั่งตรงข้ามตีกันเองภายใน ฯลฯ ด้วยการใช้สื่อและวิธีต่างๆ เช่น เครือข่ายอินเทอร์เน็ต โซเชียลมีเดีย จิตวิทยามวลชน การบิดเบือนข่าวสาร การปล่อยเฟคนิวส์ การปล่อยข่าวลับ ฯลฯ
โดยยุทธวิธีนี้กระทรวงกลาโหมของสหรัฐอเมริกามีการยืนยันหลักการและจัดทำออกเป็นเอกสารและถูกเผยแพร่ในปีค.ศ.2006 ว่าด้วย“สงครามสารสนเทศ” หรือ “Information Warfare” ในมุมมองของกองทัพสหรัฐอเมริกา
12.
ในขณะที่โลกยุคนี้ทำสงครามกันด้วย “ข้อมูล” และ“สื่อ”เพื่อโจมตีประเทศฝ่ายตรงข้าม แต่ในประเทศไทยการใช้ยุทธวิธีทางทหารเพื่อการสงครามเหล่านี้ กลับถูกใช้กับ “ประชาชน” เป็นการที่กองทัพไทย ทำสงครามกับประชาชนไทยเองทำให้การที่จะมอง “Baworndet2476” เป็นความตลกอย่างเดียวก็ยังน่าอดสูไป เพราะ IO พวกนี้ยังเป็นหลักฐานชั้นดีว่าจนแล้วจนเล่า “ศัตรู” ของรัฐฯก็ไม่เคยใช่ใครอื่นเลย นอกจาก “ประชาชน”
อ้างอิงข้อมูล