ชวนดูภาพยนตร์ “INVASION” …เมื่อ IO สุดไฮเทคของกองทัพเอเลี่ยนที่มีมนุษยธรรมเป็นศูนย์ สามารถทำลายล้างมนุษยชาติได้

ชวนดูภาพยนตร์ “INVASION” …เมื่อ IO สุดไฮเทคของกองทัพเอเลี่ยนที่มีมนุษยธรรมเป็นศูนย์ สามารถทำลายล้างมนุษยชาติได้


WE Watch วันนี้ เป็นเรื่องราวของภาพยนตร์โลกาวินาศ CG ล้ำๆ เรื่อง “INVASION” ที่กำลังจะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์วันที่ 26 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ ซึ่งภายใต้ความตื่นตาตื่นใจของการทำสงครามระหว่างมนุษย์กับต่างดาว

หนังเรื่องนี้เปรียบเป็นภาพจำลองของความ “หายนะ” ที่จะเกิดขึ้น หากปฏิบัติการ IO ซึ่งเป็นยุทธวิถีทางทหารในการโจมตีเป้าหมายด้วยข้อมูลสำเร็จแบบ 100% เพราะปราศจากอุปสรรคและตัวแปรในปฏิบัติการคือความมี “มนุษยธรรม” ซึ่งความจริงแล้ว IO กองทัพทหารมนุษย์เองก็โหดร้ายจนสามารถทำลายมนุษยชาติได้จริงเหมือนกัน แม้จะไม่มียานเอเลี่ยนเลยด้วยซ้ำ หากไร้ซึ่งมนุษยธรรม

ภาพจาก : M Pictures

ภาพยนตร์เรื่อง “INVASION” คือภาคต่อของ “ATTRACTION” ที่เข้าฉายในปี 2017 เป็นหนังไซไฟโลกาวินาศสัญชาติรัสเซีย ที่มีเนื้อหาต่อเนื่องจากภาคแรก ที่เป็นเรื่องราวของการเผชิญหน้าของโลกกับสิ่งมีชีวิตต่างดาว ที่บุกมายังโลกด้วยยานรูปลักษณ์คล้ายลูกตาที่มาพร้อมมูฟเมนท์ที่ชวนสยองพองขนและในขณะที่ทั่วโลกกำลังเตรียมชักธงรบ กลุ่มวัยรุ่นที่เป็นตัวดำเนินเรื่องหลัก หนึ่งในนั้นมี “ยูเลีย” นางเอกที่เป็นลูกสาวของนายพลใหญ่คุมกองทัพอวกาศรวมอยู่ด้วย และยูเลียนี่แหละที่เป็นตัวละครเอกยาวมาถึงภาคต่อนี้ เพราะเธอเป็นคนได้พบกับมนุษย์ต่างดาวที่มากับยานนั้น และพบว่าพวกเขามีความเป็น “มนุษย์” ไม่ต่างกับพวกเราเอง เป็นเหตุผลในการเปลี่ยนท่าทีของชาวโลก เพราะความจริงแล้วมนุษย์เราอาจไม่ต้องทำสงครามต่อสู้กับสิ่งที่มีชีวิตที่มีความ “แตกต่าง” จากเราไปเสียหมดก็ได้

ส่วน INVASION ภาคนี้คือเนื้อหาที่ต่อมาจากการยุติเชื้อสงครามนั้น… ด้วย What if ที่ว่า หาก “สงคราม” คราวก่อนนั้นยังไม่จบ และเอเลี่ยนกำลังชักธงรบแบบเต็มกำลัง

ภาพจาก : static.hollywoodreporter.com

“INVASION” คือภาพคำตอบ ของคำถามที่ว่า…

หากปฏิบัติการ IO ที่มีตรรกะความคิดทางทหาร 100%
โดยไร้ซึ่ง “ใจ” และ “มนุษยธรรม”
จะเกิดอะไรขึ้น ?

หากใช้เพียงตรรกะเหตุผลแบบทหารทำสงคราม การฆ่าคนเป็นล้านเพื่อให้บรรลุเป้าหมายหนึ่งเดียว ย่อมเป็นสิ่งพึงทำ
แต่หากคำนึงถึงความเป็นมนุษย์มากขึ้น และมี “หัวใจ” ร่วมด้วยในการตัดสินใจ
การบรรลุเป้าหมายใดก็ตาม หากกระทบกับสิ่งมีชีวิต หรือต้องฆ่ามนุษย์เพียงคนเดียวหรือหยิบมือ…อาจต้องเป็นสิ่งที่ตัดสินใจใหม่

ใน INVASION ทำให้เราเห็นความแตกต่างของ “การตัดสินใจ” แบบนี้ก่อนเลย ซึ่งเป็น “มาตรการ” ที่มีจุดยืนต่างกันระหว่าง “มนุษย์” กับยานรบอันไร้ชีวิต ไร้ใจ แต่ถูก “โปรแกรม” มา ทำให้เราได้เห็นภาพของ“หายนะ” ที่สามารถเกิดขึ้นได้ หากกองทัพใดใช้ปฏิบัติการ IO ด้วยตรรกะความคิดแบบทหาร ที่มุ่งโจมตี “เป้าหมาย” ให้สำเร็จเท่านั้น โดยไม่คำนึงถึงตัวแปรและความเสี่ยงอย่างอื่นเลย ไม่ว่าจะเป็นการทำลายชีวิต ความหวัง อารยรรมของสิ่งมีชีวิตอื่น เพราะ “มนุษยธรรม” ไม่ใช่สิ่งที่สามารถ “โปรแกรม” ใส่ลงไปได้

แต่จะด้วยวิธีการที่ไฮเทค และสามานย์ได้ขนาดไหน ต้องลองไปดูกันเอาเอง…

ภาพจาก : M Pictures

ปฏิบัติการ “IO” หรือ “Information Operation” คือกลยุทธ์ทางทหารที่ใช้เป็นยุทธวิธีโจมตีศัตรูในสงคราม ด้วยการใช้ “ข้อมูล” ผ่านสื่อต่างๆ เพื่อทำลายฝ่ายตรงข้ามในทางใดทางหนึ่ง เริ่มตั้งแต่สร้างผลกระทบต่อการคิดและตัดสินใจของฝ่ายตรงข้าม เช่นสร้างข้อมูลเท็จบิดเบือนการรับรู้เพื่อให้โจมตีง่าย ปล่อยข้อมูลที่เสี้ยมให้คนในฝั่งตรงข้ามตีกันเองภายใน ฯลฯ ด้วยการใช้สื่อและวิธีต่างๆ เช่น เครือข่ายอินเทอร์เน็ต โซเชียลมีเดีย จิตวิทยามวลชน การบิดเบือนข่าวสาร การปล่อยข่าวปลอม การปล่อยข่าวลับซึ่งใน INVASION บอกเลยว่ากองทัพเอเลี่ยนสามารถทำปฏิบัติการ IO ออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบมาก

อ้างอิงข้อมูล – acqnotes.com

ภาพจาก : variety.com

“เรามีชีวิตอยู่ได้ด้วยสิ่งไหน
ก็เสมือนเราอยู่ใต้อำนาจของสิ่งนั้น
และศัตรูย่อมใช้อำนาจนั้นเป็นเครื่องมือทำลายเราได้”

ในขณะที่ใน INVASION เป็นการที่ต่างดาวใช้ปฏิบัติการ IO เพื่อโจมตีชาวโลก ในฐานะ “ศัตรู” ด้วยการใช้ “น้ำ” ซึ่งเป็นทรัพยากรส่วนใหญ่ของโลก และเป็นปัจจัยสำคัญของ “ชีวิต” มนุษย์
และอีกหนึ่งอาวุธใหม่ที่เป็นดั่งปัจจัยที่ 5 ของมนุษย์ในยุคปัจจุบันคือ “เทคโนโลยี” ซึ่งก็คิดได้อีกแง่ว่า การที่ IO ของเอเลี่ยนใช้เทคโนโลยีก่อนที่จะใช้น้ำซะอีก ทั้งที่ความจริงมนุษย์ก็ไม่ตายถ้าขาดมัน อาจเป็นเพราะเอเลี่ยนเห็น “จุดอ่อน” ใหม่ของมนุษย์โลก ที่เป็น “ทาส” ของเทคโนโลยีมากกว่าที่มันจะเป็นปัจจัยจริงๆ …และหากเราเป็นทาสของสิ่งไหน สิ่งนั้นย่อมทำลายเราได้

ซึ่งในประเทศไทยเอง แม้เราจะรักสงบแบบที่ไม่หาเรื่องรบกับใครข้างนอก แต่ทหารไทยกลับใช้ปฏิบัติการนี้โจมตี “ประชาชน” ไทยอยู่ตลอดเวลาเสมือนเป็น “ศัตรู” เบอร์หนึ่งของรัฐ ด้วยมาตรการและวิธีการที่คล้ายกัน ทั้งด้วยการใช้เทคโนโลยี ปล่อยข้อมูลเท็จ บิดเบือนข้อมูล เสี้ยมให้คนในชาติตีกันเอง หรือแม้แต่ตัดต่อคลิปเสียงก็ยังทำมาแล้ว ซึ่งเรียกได้ว่าไม่แพ้เอเลี่ยนทั้งที่ของเอเลี่ยนเป็นระบบที่ถูก “โปรแกรม” มาด้วยซ้ำ แต่กองทัพไทยสามารถทำปฏิบัติการออกมาได้ในระดับที่ไร้หัวใจ ไร้มนุษยธรรมไม่ต่างกันเลย ต่างแค่ตรงที่ไม่มียานยักษ์และระบบ Ai สุดไฮเทคและยังขาดทักษะและความชาญฉลาดที่จะทำให้เนียนเท่านั้น ที่ยังทำให้ประชาชนไทยยังปลอดภัยมากกว่าที่กองทัพตั้งเป้าไว้

แต่อีกอาวุธลับที่ทำให้มนุษย์ตกเป็น “ทาส” ที่ประเทศอื่นอาจไม่มีคือสถาบันบุคคลอันศักดิ์สิทธิ์ที่อ้างว่าเป็น “ศูนย์รวมใจ” ของชนชาตินั้นนี่แหละ เพราะถ้าที่รัสเซีย หรือปกติสากลโลกมี ยานเอเลี่ยนอาจจะใช้เพื่อเป็นอาวุธทำลายมนุษยชาติสำเร็จแบบไม่ต้องใช้พลังงานมากเลยก็ได้ เพราะสามารถทำให้มนุษย์โลกตีกันตายเองได้ทั้งหมด

ภาพจาก : M Pictures

สุดท้ายนี้ เป็นความคิดเห็นของผู้เขียนเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่อง “INVASION” แม้จะเป็นภาคต่อจาก “ATTRACTION” แต่ถ้าใครยังไม่ได้ดูภาคแรกมา แล้วกะมาดูเลย ก็ยังดูรู้เรื่องนะ สำหรับคอหนังโลกาวินาศหรือหนังแอคชั่น ไซ-ไฟ เรื่องนี้มีให้แบบจัดเต็มมาก CG แจ่มดี ได้ดูซีนโลกพังแบบอิ่มๆ พอสมควร ก่อนเข้าโรงควรเคลียร์ภารกิจส่วนตัวให้เรียบร้อย เพราะหนังยาวประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าพอๆ กับภาคก่อน เป็นเพราะหนังเล่าแบบนับ 1-10 ดำเนินเรื่องต่อเนื่องกัน รายละเอียดเยอะ แต่ไม่ทำให้รู้สึกว่าน่าเบื่อ

เพราะนอกจากซีนโลกพัง หนังซีรีส์นี้มีความเป็น “หนังรัก” อยู่ในตัวด้วย โดยส่วนมากหนังแนวนี้มักจะเน้นไปที่การบุกรุก การปฏิบัติการตั้งรับและโจมตีของทีมงานมนุษย์ โดยที่มีความรักกุ๊กกิ๊กพอหอมปากหอมคอไม่เกิน 10-20% ของเรื่อง แต่สำหรับ INVASION ความรักเป็นอีกหนึ่งแก่นของเรื่องเลย และเป็นตัวแปรสำหรับสงคราม เพราะตั้งแต่ภาคก่อนก็มีกลิ่นอายรักโรแมนติกของสิ่งมีชีวิตต่างสายพันธุ์ และเรื่องราวความรักนั้นก็ยังต่อเนื่องมาจนถึงภาคนี้

โดยมีทีมกู้โลกเป็นเหล่ากองทัพทหารรัสเซียที่ตั้งรับปฏิบัติการ IO ได้อย่างรู้จุดแทนที่จะเห็นฉากทีมนักวิทยาศาสตร์หรือการขายฉากความเป็นผู้นำของประธานาธิบดีในอุดมคติแบบทางฝั่งฮอลลีวูด สรุปแล้วนับเป็นหนังโลกาวินาศที่หลากรสดี ไม่หนัก เรียกว่ายังดูได้สนุก จะมีบทในบางช่วงตอนที่ทำให้รู้สึก เอ๊ะ ในความไม่สมเหตุสมผลบ้าง แต่ก็ไม่ถึงกับพัง ถ้าใครกำลังอยากหาหนังดูสนุกๆ เพลินๆ สุดสัปดาห์นี้ “INVASION” ก็ยังนับเป็นตัวเลือกที่ดี


ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *