นับเป็นยุคแห่งการ “ตื่น” สำหรับชาวอาเซียนที่แท้ แม้แต่ในประเทศสิงคโปร์ ที่มีกฎหมายกีดกันเสรีภาพมากมายในประเทศ ก็ยังเผชิญหน้ากับช่วงเวลาที่คนรุ่นใหม่กล้าที่จะก้าวออกมาแสดง “สัญลักษณ์” และทักท้วงว่าพวกเขาไม่สมควรมีชีวิตไร้เสรีภาพอย่างที่เป็นอยู่ ซึ่ง “Jolovan Whom” ก็คือหนึ่งในนั้น และเขาก็กำลังต่อสู้กับอุปสรรคซึ่งเป็นการใช้กฎหมายที่มีการกดขี่เสรีภาพไม่ต่างจากคนรุ่นใหม่ชาวไทยที่ยังดำเนินคดีเพราะพูดความจริงที่รัฐไม่อยากได้ยินอยู่ทุกวี่วัน
เมื่อประมาณกลางปีนี้ Jolovan Whom ตั้งใจไปยืนถือป้ายสัญลักษณ์รูปอิโมติคอน “หน้ายิ้ม” ที่วาดมาในกระดาษ แบบเรียบง่ายเพียงคนเดียวที่หน้าสถานีตำรวจ และหาคนถ่ายรูปนั้นให้เขา แต่เพียงแค่ชั่วขณะเพียง 10 วินาทีระหว่างที่รอถ่ายรูป ทำให้เขาได้รับหมายเรียกในข้อหาฝ่าฝืนกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน และถูกดำเนินค่าปรับสูงสุด 10,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ (10,150 ดอลลาร์) หรือถูกจำคุก 30 วัน

เนื่องจากในสิงคโปร์ การเดินขบวน ประท้วง พูด หรือเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์ใดๆ นอกเหนือจากที่ Speaker’s Corner ใน Hong Lim Park จำเป็นต้องมีการขออนุญาตอย่างเป็นทางการ และหากมีการเคลื่อนไหว หรือประท้วง ไม่ว่าจะมีกี่คน ล้วนเป็นเรื่องผิดกฎหมายในสิงคโปร์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ Jolovan Whom เห็นว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ปกติ
Jolovan Whom เป็นนักเคลื่อนไหวเรื่องสิทธิเสรีภาพของประชาชนชาวสิงคโปร์ ที่กล้าออกมาพูดในสิ่งที่ชาวสิงคโปร์ส่วนใหญ่ “กลัว” และกระดากที่จะพูด ทั้งเรื่องสิทธิและกฎหมายของชาว LGBTQ+ กฎหมายเกี่ยวกับการประหารชีวิต หรือแม้กระทั่งเสรีภาพในการพูด
สิ่งที่เกิดขึ้นกับ Jolovan Whom ทำให้องค์กรสิทธิมนุษยชนออกมาพูดถึงว่า “โลกกำลังหัวเราะให้กับการต่อต้านความคิดต่างจนน่าขำ” และยังบอกกล่าวไปถึงรัฐบาลสิงคโปร์ว่า “รัฐบาลของสิงคโปร์ควรเติบโตขึ้น และยอมรับว่าจำเป็นต้องมีการพูดคุยกันระดับชาติ เกี่ยวกับสิ่งที่ประชาชนต้องการในศตวรรษที่ 21 และต้องเคารพสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองของประชาชน”
Jolovan Whom บอกว่าในสังคมสิงคโปร์นั้นมีวัฒนธรรมแห่งการเงียบและเชื่อฟัง และเขาแค่ต้องการให้เพื่อร่วมชาติรู้ว่าการประท้วงนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นการสร้างความขัดแย้งเสมอไป และเขาต้องการให้ประชาชนชาวสิงคโปร์สามารถแสดงออก และพูดเกี่ยวกับการเมืองได้ ไม่ว่าจะในที่สาธารณะหรือทางออนไลน์ โดยไม่ต้องกลัวการตอบโต้ของรัฐบาล เพราะการที่ประชาชนออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเมืองได้ จะทำให้ทุกคนมีส่วนรวมในการพัฒนาชุมชนและประเทศให้ก้าวหน้าได้

โดยหลังจากที่ Jolovan ได้พูดถึงกฎหมายนี้และมีรูปภาพของเขาแพร่ออกไป ก็มีชาวสิงคโปร์ออกมาแสดงสัญลักษณ์เป็นการโพสต์รูปกับรูปหน้าอิโมติคอนยิ้ม ในแฮชแท็ก #smileinsolidarity เพื่อเป็นการแสดงจุดยืนของพวกเขาด้วยเช่นกันหลายร้อยภาพ
ซึ่งหลังจากที่เขาได้รับทราบข้อกล่าวหา Jolovan Whom ก็บอกกับสื่อว่าเขาเคยถูกจำคุกมาสองครั้งแล้ว ในข้อหาที่เกี่ยวกับการแสดงความกระด้างกระเดื่องต่อหน้าสาธารณชน และครั้งนี้เขาคงต้องถูกจำคุกอีกครั้งแทนที่จะจ่ายค่าปรับ
ที่มาข้อมูล