เมื่อวานนี้ (30 กค. 64) ประเทศไทยได้รับมอบวัคซีน mRNA ยี่ห้อ Pfizer จากการบริจาคของประเทศอเมริกาเรียบร้อยแล้ว โดยมีรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวง สาธารณสุข นาย อนุทิน ชาญวีรกูล เป็นผู้ไปเสนอหน้ารับวัคซีน ที่ภาคประชาชนชาวไทยเป็นผู้ประสานงานจนได้รับการบริจาคมาในที่สุด
ประเด็นสำคัญของการรับมอบ Pfizer ในล็อตนี้คือ

ประเด็นที่ 1
เรื่องสิทธิในการรับวัคซีนของบุคลากรทางการแพทย์ สรุปคือต้องเป็นผู้ที่ได้ Sinovac 2 เข็มเท่านั้นจึงจะมีสิทธิรับ Pfizer เป็น Booster dose ซึ่งเป็นข้อครหามาก คือแบบนี้นะครับ บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงสูงสุด เจอเชื้อทุกวันไม่รู้ว่าสานพันธุ์อะไรบ้าง เพื่อที่จะรักษาผู้ป่วย ความเสี่ยงระดับนี้ และความเสียสละระดับนี้ ที่อดทนทำมาเป็นปี ๆ บ้างเสียชีวิต บ้างเสียครอบครัว ผมถามจริง ๆ ว่าพวกเขาไม่มีคุณค่าพอที่จะได้รับการปกป้องที่ดีที่สุดที่เราพอจะหาได้หรือครับ ? หัวใจของท่านทำด้วยอะไร ? ถ้าแพทย์ติดเชื้อเพราะวัคซีนด้อยคุณภาพจรเสียชีวิต ท่านรับผิดชอบได้หรือไม่ ? หยุดเถอะครับ เรื่องคิดจะหากินกับวัคซีน นี่ขีวิตคนครับ นี่คือความเป็นความตาย ทำไมท่านต้องสร้างเงื่อนไขมากมายเพื่อทำให้แพทย์ปกป้องชีวิตตัวเองยากมากขึ้น

ประเด็นที่ 2
การจัดสรรวัคซีนให้แก่กลุ่มคนอื่น ๆ คือผมเข้าใจนะครับว่ามีกลุ่มเสี่ยงสูงที่อันตราย แต่ท่านจัดสรรโควต้าไปถึง 645,000 โดส ผมถามแบบนี้ครับว่า ถ้าหากไฟเซอร์ยังไม่มาคนกลุ่มนี้ต้องทำอย่างไร ? ต้องฉีด AstraZeneca หรือ Sinovac ใช่หรือไม่ ? ความเสี่ยง หรือการสัมผัสเชื้อของคนกลุ่มนี้มีความเสี่ยงก็จริง แต่เสี่ยงไม่เท่าบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องเจอเขื้อทุกวันแน่ ๆ จะดีกว่าหรือไม่หากเอา 645,000 โดสนี้จัดสรรให้บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าที่ต้องเผชิญความเสี่ยงก่อนให้เพียงพอ เป็นความสำคัญลำดับแรก เมื่อเหลือแล้วจึงแบ่งมาให้กลุ่มนี้ กลุ่มที่ 3 ชาวต่างชาติและ 150,000 โดส เพื่ออะไรครับ ? ถามจริง ๆ คือเดี๋ยววัคซีน mRNA ก็จะต้องถูกนำเข้ามาอีก กลุ่มอื่นช่วยรักษาตัวรอก่อนได้หรือไม่ โปรดดอาวัคซีนที่ดีที่สุดให้บุคลากรด่านหน้าก่อนได้มั้ย ? แล้วที่ค้องแย่งวัคซีน mRNA กันแบบนี้เป็นเพราะความผิดพลาดของรัฐบาลเรื่องการจัดการวัคซีนใช่หรือไม่ ? โดสวิจัย ยังไม่จำเป็นเร่งด่วน โดสสำรอง ……. สำรองทำไมวะ คนจะตายห่ากันหมดแล้วคร้าบลูกพี่

ประเด็นที่ 3
เรื่องพิธีเปิด ขอสั้น ๆ ครับ “โควิดมันไม่หยุดวันเสาร์ อาทิตย์ หรือกยุดรอมาร่วมพิธีเปิดหรอกครับ” คนตายทุกวัน บุคลากรทางการแพทย์เสี่ยงทุกวัน ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินมากมาย แต่ติดพืธีรีตองจนทำให้คนต้องมาเสี่ยงตายเพิ่มขึ้นนี่มัน…เฮ้อ…บางทีก็ต้องคิดให้มันมาก ๆ หน่อยนะครับ
สรุปสั้น ๆ คือ บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงสุด สมควรได้รับวัคซีน Pfizer ล็อตนี้โดยปราศจากเงื่อนไข และ เร็วที่สุด เพราะถ้าแพทย์ตายกันหมดแล้วจะเหลือใครมารักษาประชาชนได้ การปกป้องแพทย์ในวันนี้คือการปกป้องประชาชนในวันพรุ่งนี้ การจัดสรรไปยังส่วนใดที่มีความสำคัญน้อยกว่า ถ้ารอได้ให้รอไปก่อน ส่วนเรื่องพิธีกรรมต่าง ๆ ถ้ายังพอมีสมองก็ยกเลิกไปก่อนมันเสียเวลาและไร้สาระ ไม่มีใครสรรเสริญหรอกครับ เพราะมันไม่ใช่ผลงานคุณ อย่าสะเออะมาเสนอหน้า มันจะมีแต่ส่งสาปส่งว่าหน้าด้าน
ผมจะขอเตือนว่า รัฐบาลอย่ามาใช้วัคซีนเพื่อเล่นเกมการเมือง ราคามันสูงเกินกว่าที่คุณจะรับผิดชอบได้
**แชร์ไปครับ จนกว่ารัฐบาลจะสำนึกได้ว่า Pfizer ล็อตนี้นั้น มีไว้เพื่อมอบให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า โดยปราศจากเงื่อนไขอย่างเร็วที่สุด