หนึ่งในเป้าหมายของรัฐเผด็จการคือการควบคุมคือให้ภาคประชาชนอ่อนแรง การแทรกแซงองค์กรอิสระ ที่เป็นการรวมตัวของภาคประชาชนเพื่อคานอำนาจและตรวจสอบรัฐบาล ด้วยการออกคำสั่งหรือกฎหมายต่างๆ อย่างเช่นการออกราชกิจจาฯ ควบคุมสื่อ ที่อ้างว่าเป็นการป้องกันเฟคนิวส์ แต่แท้จริงแล้วคือการสร้างความกลัวให้ประชาชนไม่กล้าพูดอะไรที่ขัดแย้งต่อผู้มีอำนาจ
ล่าสุดรัฐบาลได้ออก “ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการดำเนินงานขององค์กรที่ไม่แสวงหารายได้หรีอกำไรมาแบ่งปันกัน” ที่ต้องการควบคุมการทำงานขององค์กรอิสระ ที่มาจากการรวมตัวของประชาชน ไม่ว่าจะเป็น NGO และกลุ่มเคลื่อนไหวทางสังคมต่างๆ โดยอ้างว่าทำไปเพื่อป้องกันการฟอกเงิน แต่การออกพรบ.ดังกล่าวจะส่งผลร้ายแรงดังนี้
1. ทำให้องค์กรอิสระที่เป็นการรวมตัวของประชาชนต่างๆ ที่ครอบคลุมทั้ง สมาคม, ชมรม, มูลนิธิ, แนวร่วม, NGO และกิจกรรมอาสาสมัครต่างๆ (รวมถึงเพจ We Think ที่คุณกำลังอ่านด้วย) จะต้องลงทะเบียนและอยู่ภายใต้การกำกับของกระทรวงมหาดไทย
2. เพราะขึ้นตรงกับมหาดไท ทำให้รัฐมีสิทธิตรวจค้นสำนักงานได้โดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า ไม่ต้องมีหมายศาล สามารถสั่งยุบการรวมกลุ่มได้ทันที และทีนี้ใครจะกล้าเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลล่ะ?
3. ห้ามองค์กรอิสระรับเงินโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงมหาดไท อย่าลืมว่าในเมืองไทย ทุนสนับสนุนด้านสังคมมีแต่ทุนเฉลิมพระเกียรติ กฎหมายนี้จะห้ามองค์กรอิสระรับเงินจากหน่วยงานต่างประเทศ แปลว่าองค์กรอย่าง iLaw และประชาไท และองค์กรขับเคลื่อนประชาธิปไตยต่างๆ จะถึงคราวอวสานทันทีที่พรบ.นี้ถูกบังคับใช้
4. หัวใจสำคัญของการมีองค์กรอิสระคือ “อิสระ” จากการควบคุมของรัฐ เพื่อให้องค์กรเหล่านั้นสามารถแสดงออกสิ่งที่ขัดต่ออำนาจรัฐได้ เพื่อเป็นกระบอกเสียงของคนที่ไม่ได้รับความยุติธรรมได้อย่างเต็มที่ เช่น การทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับ iLaw และนำเสนอในสภา การเคลื่อนไหวเพื่อปฏิรูปการศึกษาของกลุ่มนักเรียนเลว การจัดชุมนุมอย่างสันติวิธีของกลุ่มต่างๆ การเกิดสื่อนอกกระแสหลักที่นำเสนอข่าวแบบไม่กลัวอำนาจรัฐ สิ่งเหล่านี้จะหายไปเมื่อพรบ.นี้ถูกบังคับใช้
และวันนี้ (1 สิงหาคม 2564) คือวันสุดท้ายที่เราทุกคนจะหยุดร่างพรบ.นี้ได้ ด้วยการคลิกที่ลิงค์นี้
https://lawtest.egov.go.th/PrincileDetail?survey_id=326
และตอบคำถามทั้ง 8 ข้อด้วยการแสดงความเห็นคัดค้านว่า “ไม่จำเป็น” หรือ “ไม่เห็นด้วย” (ทั้งหมดนี้ใช้เวลาไม่ถึง 1 นาที)
ยิ่งมีความเห็นแย้งต่อร่างพรบ. นี้มากเท่าไหร่ โอกาสที่ร่างนี้จะไม่ถูกใช้ ก็มีมากเท่านั้น
เรามาช่วยกันส่งเสียงของประชาชนให้ดังที่สุด เพื่อเอาชนะความอยุติธรรมของรัฐกันเถอะ
ที่มาของข้อมูล
บรรณาธิการบริหารของ We Think ผู้ดู Youtube แทนทีวีจริงๆ และนิยมทำงานพาร์ทไทม์หลายอาชีพนอกจากทำ We Think
